หน้าที่หลักของไต
ได้แก่
- กรองของเสียออกจากเลือด และกำจัดออกทางปัสสาวะ
- ควบคุมสมดุลขอบแร่ธาตุ เช่นโซเดียมฟอสฟอรัส แคลเซียม โพแทสเซียม เป็นต้น
- ทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนบางชนิดซึ่งช่วยควบคุมความดันเลือด และสร้างเม็ดเลือดแดง
โรคไตเป็นกลุ่มโรคที่เกิดความเสียหายของไต
ทำให้ไตไม่สามารถทำหน้าที่กรองของเสียออกจากร่างกายได้ตามปกติ
ของเสียจึงสะสมอยู่ในร่างกายสัตว์ร่างกายจะสูญเสียความสมดุลของกรด-ด่าง น้ำ
และแร่ธาตุในกระแสเลือด ส่งผลกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมน ระบบทางเดินอาหาร ระบบหัวใจ
และหลอดเลือดตามมาได้
คุณทราบหรือไม่
เมื่อมีความเสียหายที่ไต
จะมีฟอสฟอรัสสะสมในกระแสเลือดเพิ่มขึ้น และอาจทำให้มีปัญหาฮอร์โมนตามมา
ดังนั้นเมื่อสัตว์ป่วยด้วยโรคไตจึงควรให้อาหารที่มีฟอสฟอรัสต่ำ
เพื่อช่วยลดหรือชะลอความรุนแรงของโรคไตในสุนัข
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคไต
- อายุ สนัขแก่มักมีความเสี่ยงมากกว่า ในสุนัขอายุเฉลี่ยประมาณ 6.6 ปี
- สายพันธุ์ บางสายพันธุ์มีความเสี่ยงสูง เช่น พันธุ์ชิห์สุ คอกเกอร์ สแปเนียล โดเบอร์แมน ลาซ่า แอปโซ่ เป็นต้น
- อาหาร อาหารที่มีฟอสฟอรัสสูงอาจมีแนวโน้มนำให้เกิดโรคไตได้
- ปัจจัยอื่นๆ เช่น ภาวการณ์ติดเชื้อ โรคนิ่ว สารพิษบางชนิด เช่น ฟีนอล สามารถโน้มนำให้เกิดโรคไตได้
อาการของโรคไต
ส่วนมากจะไม่ค่อยแสดงอาการ
จนกว่าไตจะเกิดความเสียหายมากกว่า 75 % ขึ้นไป โดยอาการอาจแตกต่างกัน
แต่โดยมากการกินน้ำมากกว่าปกติมักจะสังเกตได้ก่อน หากพบอาการดังกล่าวควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วนเพื่อขอคำแนะนำ
หรือวินิจฉัยเพิ่มเติม
อาการของโรคไตมีดังนี้
- เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลด เหนื่อยง่าย
- ดื่มน้ำมาก ปัสสาวะมาก หรือไม่ปัสสาวะเลย
- คลื่นไส้ อาเจียน
- มีกลิ่นปากแรง มีแผลในปากทำให้เจ็บปาก และกินอาหารน้อยลง
การรักษา
ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อรักการวินิจฉัย
และหาสาเหตุการเกิดโรคเพื่อให้น้องหมาได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และทันเวลา
สัตวแพทย์มักแนะนำให้เจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพความเสียหายของไต
และภาวะโลหิตจางที่มักเกิดตามมา
นอกจากนี้ยังอาจตรวจปัสสาวะหรือทำการเอ็กซเรย์เพิ่มเติม เพื่อช่วยวินิจฉัย