น้องหมาพันธุ์พุดเดิ้ล

                                                                                       

พุดเดิ้ล (Poodle)  สายพันธุ์นี้ ได้ชื่อว่าเป็นน้องหมา ที่มีความนิยมอันดับต้นๆของโลกเลยก็ว่าได้ ลักษณะนิสัยของสายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อว่าฉลาด ฝึกง่าย สอนง่าย ขี้อ้อน และประจบเก่งเป็นที่สุด แถมยังอดทนไม่ขี้แย เลี้ยงง่าย แม้จะปากเปราะไปบ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นหมาที่เห่าไม่รู้เรื่อง พุดเดิ้ลแบ่งเป็น สายพันธุ์แต่ในบ้านเราที่นิยมเลี้ยงที่สุดคือ พุดเดิ้ลทอย มันกลายเป็นหวานใจตัวน้อยๆของหลายๆ ครอบครัว เพราะขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ แถมยังมีลักษณะเป็นเหมือนเหมือนตุ๊กตาที่มีชีวิต สดใสมีชีวิตชีวา มีนิสัยรักสวยรักงาม ชอบเสริมสวย ชอบเที่ยว และเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวได้เร็ว

  ประวัติ
    ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่ามีกำเนิดในประเทศใด บางข้อมูลกล่าวว่ามีกำเนิดในประเทศเยอรมัน โดยรู้จักกันในนาม Pudle แต่บางท่านกล่าวว่า Poodle เป็นสุนัขประจำชาติของฝรั่งเศสโดยชาวฝรั่งเศสมักนิยมใช้สุนัขพันธุ์นี้ในการคาบสิ่งของ หรือฝึกแสดงในละครสัตว์ และชอบที่จะตัดแต่งทรงขนซึ่งมีลักษณะหยิกแน่นเป็นขดเป็นทรงต่างๆตามแฟชั่น เป็นที่โปรดปราน แก่บรรดาคุณหญิงคุณนายชาวฝรั่งเศสกันมาช้านาน
       พุดเดิ้ล (Poodle) มีถิ่นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศสและเยอรมนีตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14 แต่ไม่สามารถสรุปแน่ชัดว่าต้นกำเนิดจริงๆ เป็นประเทศเยอรมนีหรือประเทศฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ประเทศต่างนิยมเลี้ยง พุดเดิ้ล ไว้เพื่อใช้งาน "เก็บของในน้ำ" เหมือนกัน ซึ่งนั่นก็คือ "นกเป็ดน้ำ" ที่ชาวไร่ชาวนายิงได้
          ในประเทศเยอรมนี พุดเดิ้ล ถูกเรียกว่า "Pudel" หรือ "Pudelin" ซึ่งแปลว่า "กระโดดน้ำ" (สันนิษฐานกันว่าชื่อ Poodle ในภาษาอังกฤษที่เราเรียกกันนั้นก็น่าจะมีรากศัพท์มาจากคำว่า Pudel หรือ Pudelin ส่วนในประเทศฝรั่งเศส พุดเดิ้ลเป็นที่นิยมอย่างสูงมากจนได้การยกย่องให้เป็นสุนัขประจำชาติ ที่นี่...พวกมันมีฉายาว่า "Caniche" ซึ่งมีรากศัพท์มาจาก "chien canard" แปลว่า "สุนัขล่าเป็ด"

ลักษณะรูปร่าง (Poodle)

พุดเดิ้ลจะมีชีวิตราวๆ 12 ปี  พุดเดิ้ลส่วนใหญ่จะมี ขนาดน้ำหนักประมาณ 12-14 กิโลกรัม สูง 28-38 เซ็นติเมตร   มีหลายสีตั้งแต่ ขาว น้ำตาล ช็อคโกแลต ดำ ลักษณะหัวจะกลม กระหม่อมแคบ ตำกลมโต ปากแหลม หูปรกลง ลักษณะขนของพุดเดิ้ลตามธรรมชาติจะสากที่บนผิวด้านนอกมีความดกทั่วตัว และขนเป็นคลื่นหรือลอนหยัก มีพุดเดิ้ลที่มีขนเป็นพุ่มก้อนตามที่รู้จักกันว่าเป็นแบบของพุดเดิ้ล ขนแบบนี้จะเกาะกันเป็นพุ่มก้อน ขนที่เป็นพุ่มดกจะยาวไม่เท่ากันส่วนขนบริเวณแผงคอ, ลำตัว, หัวและหูจะยาวกว่าส่วนอื่นๆ แต่ตรงก้อนที่ฟูพองเป็นพุ่มนั้นขนจะสั้นกว่าส่วนอื่นหางจะตั้งตรง ยกขึ้นสูงและไม่ตกลง
สุนัข พุดเดิ้ล (Poodle)  แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
          1. พุดเดิ้ลทอย (Toy Poodle) เป็นพุดเดิ้ลขนาดเล็ก สูงไม่เกิน 12 นิ้ว หนักประมาณ 6 กิโลกรัม
          2. พุดเดิ้ล มินิเจอร์ (Miniture Poodle) เป็นพุดเดิ้ลขนาดกลาง สูงประมาณ 11-15 นิ้ว หนักประมาณ 11 กิโลกรัม
          3. พุดเดิ้ล สแตนดาร์ด (Standard Poodle) เป็นพุดเดิ้ลขนาดใหญ่ สูงประมาณ 18-22 นิ้ว หนักประมาณ 20 กิโลกรัม


การดูแล

          อาหารของน้องหมาพุดเดิ้ลควรเป็นอาหารสำเร็จรูป และควรเลือกอาหารตามอายุของน้องหมาด้วย เนื่องจากน้องหมาในแต่ละวัยมีความต้องการอาหารที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ลูกสุนัข จำเป็นต้องได้รับสารอาหารจำพวกโปรตีนสูงกว่าสุนัขโต ในขณะที่ร่างกายของสุนัขโตจะต้องการอาหารประเภทพลังงานมากกว่าโปรตีน อย่างนี้เป็นต้น และต้องคำนึงถึงเรื่องความสะอาดด้วย ในเรื่องภาชนะที่ใส่อาหารต้องหมั่นทำความสะอาดเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค มาทำร้ายน้องหมาของท่านได้
       ส่วนในด้านการดูแลความสะอาดของ พุดเดิ้ล จะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องหู เพราะ พุดเดิ้ล มีใบหูที่ใหญ่ หนา ห้อยปรกลงมา จึงต้องหมั่นสำรวจดูใบหูบ่อยๆ แล้วใช้สำลีเช็ดทำความสะอาดให้หมดจด ซึ่งจะดีมากหากจะหยอดน้ำยาเช็ดหูเข้าไปก่อนประมาณ 5 นาทีเพื่อทำให้สิ่งสกปรกอ่อนตัว และง่ายในการเช็ดออกมา แต่ระวังอย่าแหย่สำลีลึกจนเกินไป เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อหูชั้นในได้
        นอกจากนี้ ตาก็เป็นอวัยวะสำคัญที่พบปัญหา พูเดิ้ล ส่วนใหญ่จะมีร่องน้ำตาที่เห็นได้ค่อนข้างชัด ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้คราบน้ำตาหรือสิ่งสกปรกไปหมักหมมได้ง่าย เจ้าของจึงควรคอยเช็ดทำความสะอาดให้ทุกวัน เพราะหากทิ้งไว้นานๆ คราบนั้นจะฝังแน่นอย่างถาวร เช็ดไม่ออก นอกจากนั้น ยังควรหมั่นตรวจดูดวงตาของ สุนัข พูเดิ้ล ด้วยว่ามีฝ้าขาวๆ หรือรอยขีดข่วน รอยแผลบ้างหรือไม่

โรคภัยของน้องหมาพันธุ์พุดเดิ้ล(Poodle)  

1.             โรคเกี่ยวกับตา โรคต้อกระจก น้องหมาพันธุ์นี้มีดวงตาโตกลมเหมือนพันธุ์ชิสุ แต่โอกาสเป็นโรคต้อกระจกได้มากกว่าพันธุ์อื่นๆเจ้าของสามารถสังเกตอาการป่วยของพูเดิ้ลเมื่อป่วยด้วยโรคตา สังเกตได้จากเริ่มตาแดง ตาฝ้า บางครั้งจะมีน้ำตาเอ่อ มีขี้ตามากผิดปกติ ชอบเกาตาหรือไถตากับพื้นหรือฝาผนัง ที่เห็นได้อย่างเด่นชัดสุด คือ การเดินชนของ เดินขึ้นบันไดลงบันไดไม่ค่อยถนัด หาชามข้าวไม่พบ เป็นต้น ซึ่งหากพบมีอาการเหล่านี้ควรนำมาพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคและได้รับการรักษาอย่างตรงจุด
2.             โรคหัวใจ มีสาเหตุมาจากความผิดปกติในโครงสร้างและหน้าที่ของหัวใจ หรือความผิดปกติของหัวใจตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งอาการของ สุนัข ที่มีปัญหา โรคหัวใจ จะมีอาการซึมเศร้า  น้ำหนักลด เบื่ออาหาร หรือกินอาหารได้น้อยลง ท้องกาง ไอแห้งๆ และมักไอเวลากลางคืน มีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนแรง หายใจลำบาก เหงือกซีด  เป็นลมหมดสติ ทั้งนี้ สุนัข พุดเดิ้ล ที่เป็นโรคหัวใจ สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างปกติ แต่จะต้องดูแลเรื่องการให้ยาอย่างใกล้ชิด ควรงดการออกกำลังกายหรือกิจกรรมใดๆ ที่ทำให้สัตว์เหนื่อย เนื่องจากหัวใจต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น และสิ่งสำคัญคือ ระวังในเรื่องการให้อาหารและน้ำที่มีส่วนผสมของเกลือ ต้องมีปริมาณเกลือต่ำ
      นอกจากโรคดังกล่าวที่กล่าวมาแล้วก็ยังมีโรคอื่นๆอีกที่จะมาทำอันตราย มาคุกคาม น้องหมาของท่าน ดังนั้นเราจึงควรที่จะดูแลเอาใจใส่ โดยการไปหาสัตวแพทย์และฉีดวัคซีนตามระยะเวลาที่สัตวแพทย์กำหนด เพื่อที่เราจะได้มีน้องหมาน่ารักๆอยู่กับเราไปนานๆ


ขอขอบคุณรูปน้องหมาพุดเดิ้ลจาก     http://nareekan.wordpress.com