น้องหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน




ประวัติปอมเมอเรเนียน

     เชื่อกันว่าน้องปอมฯของเรามีถิ่นกำเนิดครั้งแรกที่เมืองปอมเมอเรเนีย ประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นดินแดนที่มีการเลี้ยงสุนัขหรือน้องหมาที่เราเรียกกันอย่างแพร่หลาย ทั้งเลี้ยงเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงและเลี้ยงไว้เพื่อเป็นสัตว์อารักขา ปอมเมอเรเนียนมีต้นกำเนิดจากพันธุ์สปิทซ์ในสมัยโบราณ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมเมอเรเนียนพัฒนาจากสุนัขพันธุ์ซามอยด์ และบางคนเชื่อว่าพัฒนามาจากสุนัขป่า ซึ่งอาศัยอยู่ตามถ้ำในประเทศเยอรมัน และถูกนำมาใช้เป็นสุนัขเลี้ยงแกะในทวีปยุโรปตอนกลางและตอนล่าง นำมาพัฒนาในยุโรปเพื่อช่วยในการเลี้ยงแกะ ซึ่งบรรพบุรุษของปอมฯ น่าจะมีน้ำหนักมากถึง 30 ปอนด์ บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมฯ มีต้นกำเนิดมาจากประเทศกรีซ โดยอ้างหลักฐานจากภาพวาดสมัยโบราณหลายภาพที่มีอายุ 400 ปีก่อนคริสตกาล หรือเกือบประมาณ 2500 ปีมาแล้ว มีภาพของสุนัขขนาดเล็กที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนสุนัขปอมฯ ในปัจจุบัน คือ Stop ที่เด่นชัด ช่วงปากแหลม หูสั้น ลักษณะการเดินและการแสดงออกเหมือนกับที่พบได้ในปัจจุบันทุกประการ ยกเว้นแต่ตำแหน่งของหางที่อยู่ต่ำเกินไปเท่านั้น ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เป็นแค่ประวัติคร่าวๆของเจ้าน้องหมาพันธุ์ปอมที่น่ารัก ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องสนใจประวัติให้ลึกซึ้งมากนักก็ได้ แค่ให้เราสนใจในตัวเจ้าน้องหมา สนใจในการเลี้ยงดูตัวเจ้าน้องหมาพันธุ์ปอมฯนี้ก็พอแล้ว

ลักษณะรูปร่าง นิสัย

     มีรูปร่างขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 1.7-2.5 กิโลกรัม เป็นน้องหมา ที่ว่องไวปราดเปรียว มีขนชั้นในที่แน่นและนุ่ม และมีขนชั้นนอกที่หยาบกว่าชั้นใน หางสวยงามเป็นพวงขน และตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สูง หางจะขนานไปกับหลัง โดยลักษณะนิสัยพื้นฐานของ ปอมเมอเรเนียน นี้ คือ จะตื่นตัวเสมอ เห่าเก่ง มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น สง่างาม และขณะก้าวย่างแสดงถึงความมีชีวิตชีวา ในเรื่องการเห่านั้นเป็นที่เลื่องลือเรื่องการเห่าอย่างไม่มีเหตุผลและต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลนี้สุนัขเหล่านี้จึงสามารถเป็นเพื่อนที่สร้างความเครียดให้แก่ผู้ ที่ไม่ชินกันธรรมชาติของเสียงของมัน    

  การดูแล

     ไม่ควรที่จะอาบน้ำบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้ขนแห้งและหลุดร่วง ตลอดเวลา การแปรงขนทุกวันหรืออาทิตย์ละสองครั้งเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อที่จะให้ขนที่ หนาและสวยไม่พันกัน ขนของพอเมอเรเนียนต้องการการเล็มบ้างแค่ครั้งคราว การหวีนั้นไม่ค่อยจำเป็นและในบางครั้งไม่จำเป็นเลย การดูแลหูและเล็บในเรื่องความสะอาดรวมทั้งเรื่องฟันของน้องหมาด้วย ควรที่จะแปรงฟันให้เขาบ่อยๆอย่างน้อยสัปห์ดาละครั้ง ถ้าทำได้ทุกวันก็ยิ่งดี
    ในเรื่องเกี่ยวกับอาหารนั้นควรให้อาหารชนิดแห้งเพื่อลดปัญหาสุขภาพปากและฟันเนื่องจาก ปอมเมอเรเนียน ง่ายต่อการสูญเสียฟันอันเนื่องมาจากปัญหาฟันผุ หรือสุขภาพเหงือกไม่ดี จึงต้องมั่นทำความสะอาดฟันให้เป็นประจำ
      ควรพาน้องปอมไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพราะจะช่วยทำให้ปอมท้องไม่ผูก และสามารถป้องกันโรคได้อีกหลายๆชนิด การที่น้องหมาได้วิ่งด้วยความเร็วและสนุกสนาน มีผลดีต่อหัวใจ หลอดเลือด กล้ามเนื้อ ต่อมขับต่างๆ ได้อุ่นเครื่องจนร้อน เมื่อกลับจากการออกกำลังกายก็สามารถกินอาหารได้มากขึ้น ยิ่งถ้าได้อาหารที่ถูกต้องยิ่งทำให้สุนัขมีสัดส่วนที่ดี ร่างกายที่แข็งแรง รวมถึงมันจะมี step การเคลื่อนไหวที่ดี และสวยงาม อย่างไรก็ดีไม่ควรให้สุนัขออกกำลังกายหลังจากที่กินอาหารอิ่มเต็มที่

โรคภัยของน้องหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

น้องหมาพันธุ์ปอมมีโรคที่เราต้องใส่ใจดังนี้

        โรคลูกสะบ้าเคลื่อน 
      โรคนี้พบบ่อยมากและเยอะที่สุด อาการของโรคนี้ มีอาการเจ็บเข่าจนเจ้าน้องหมายกขาไม่ขึ้น ถ้าเป็นไม่มากนัก ก็สามารถรักษาด้วยการกินยา แต่ถ้าเป็นมากต้องพึ่งหมอผ่าตัด  การป้องกันของ โรคนี้คือป้องกันได้โดยอย่าปล่อยให้ ปอมเมอเรเนียน ของเราอ้วนเกินไป และคอยดูแลไม่ให้เขาหล่นหรือโดดลงจากที่สูง ส่วนสถานที่ที่เลี้ยงนั้นไม่ควรเป็นพื้นลื่นจำพวกกระเบื้อง พื้นหินขัด,หินอ่อน หรือแกรนิต ที่สำคัญไม่ควรปล่อยให้ ปอมเมอเรเนียน ที่มีปัญหาลูกสะบ้าขยายพันธุ์ 

        โรคหลอดลมตับ
       เป็นอีกโรคมักพบบ่อยๆ ใน ปอมเมอเรเนียน อาการที่พบ คือ ไอแห้งๆ เสียงดังมาก ซึ่งพบบ่อยเวลาที่ตื่นเต้นหรืออากาศเย็น ดังนั้น จึงอย่าปล่อยให้มันอ้วนเกินไป และพยายามอย่าให้เขาอยู่ในที่ที่อากาศร้อนและชื้นเกินไป และที่สำคัญเวลาจูงเดินเล่นควรใช้สายจูงชนิดสายรัดอก แทนสายจูงกับปลอกคอหรือโซ่คอ

         โรคหนังตาม้วนเข้า 
      โรคนี้สามารถพบใน สุนัข ปอมเมอเรเนียน แต่ไม่พบบ่อยเหมือน สุนัข พันธุ์เชาว์-เชาว์ หรือชาร์ไป ซึ่งวิธีแก้ไขคือต้องทำการผ่าตัดโดยสัตวแพทย์

         โรคขนร่วง 
      ปัญหาโรคขนร่วงที่พยบ่อยใน ปอมเมอเรเนียน ก็คือโรค Black Skin หรือ BSD ซึ่งทำให้ผิวหนังไม่มีขนและมีจี้ดำ เกิดจากหลายสาเหตุรวมกัน เช่น โรคไทรอยด์ต่ำ,ZEMA,ไรขี้เรื้อนและเชื้อรา ซึ่งวิธีแก้ไข คือ ควรรีบพา สุนัข ที่มีปัญหาโรคผิวแห้งไปพบสัตว์แพทย์โดยเร็ว

        โรคฟันผุ 
        ฟันถือได้ว่าสำคัญมากสำหรับน้องหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน นี้เราจึงจำเป็นต้องดูแลเป็นอย่างดีกียวกับฟันของเจ้าน้องหมา โรคฟันผุมักจะพบเมื่อเจ้าน้องหมามีอายุได้ประมาณ 5-7 ปี สังเกตได้โดยเจ้าน้องหมาจะมีกลิ่นปากอย่างรุนแรง ดังนั้นเจ้าของควรให้ความใส่ใจในเรื่องการดูแลฟันของเจ้าน้องหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน นี้ สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องฟันได้ที่เว็บไซต์นี้ http://www.oilspomeranians.com/forum/lofiversion/index.php/t175.html

credit: ขอขอบคุณรูปภาพน้องหมาพันธุ์ปอมฯจาก 
http://pimwatcharaporn.wordpress.com



Britain's Got Talent ปะทะ Thailand’s Got Talent

     วันนี้เรามาเรียกรอยยิ้มกันซะหน่อยนะครับ ดูสิของนอก กะของไทยใครเจ๋งกว่า แต่ยังไงแล้วผมเชื่อว่า ทุกคนที่ดูมีรอยยิ้มกลับไปแน่ล่ะครับสำหรับคนรักน้องหมา 

มาปะทะกับ Thailand’s Got Talent

   

ยิ้มๆกันหน่อยยยยยย

น้องหมานู๋มาสด้าคาบเชือก




น้องหมานู๋มาสด้าชอบจริงกับคำว่า"เชือก" เพราะเขารู้ว่าจะได้ออกไปเที่ยว!!

น้องหมาพันธุ์ชิห์สุ


เรื่องหมาๆสำหรับวันนี้
        หมามีหลายสายพันธุ์แล้วแต่ว่าใครจะชอบพันธุ์ไหน ชอบเลี้ยงพันธุ์ไหน แยกได้เป็น 2 พันธุ์ที่นิยมกันคือ พันธุ์เล็ก และพันธุ์ใหญ่ พันธุ์เล็กที่นิยมเลี้ยงกันก็มี ชิสุ, ปอมเมอเรเนียน, พุดเดิ้ล, ปั๊ก, ชิวาวา, เฟรนซ์ บูลด็อก, แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย, ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย, ปักกิ่ง, บีเกิ้ล    เป็นต้น
        พันธุ์ใหญ่ก็ได้แก่ บาเซ็นจิ, อเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย, ไทยหลังอาน, บางแก้ว, อัฟกาน ฮาวน์, โดเบอร์แมน พินเชอร์, ดัชชุนด์, ไซบีเรีย ฮัสกี้, เชา เชา, เป็นต้น ซึ่งหมาทั้งพันธุ์เล็กและใหญ่ล้วนแล้วแต่มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันไป การเลี้ยงดู การดูแล ก็ย่อมแตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นเจ้าของต้องใส่ใจให้มาก ในเมื่อนำเขามาเลี้ยงแล้วก็เหมือนกับว่าเรามีห่วงเพิ่ม ถ้าคิดจะเลี้ยงแล้วก็เลี้ยงให้ดี ถ้าคิดว่าเลี้ยงได้ไม่ดี ไม่มีเวลา ก็อย่าเลี้ยงเลยครับ แต่สำหรับวันนี้เรามาเริ่มกันที่หมาพันธุ์เล็กกันก่อน

พันธุ์ชิห์สุ(Shih Tzu) 

ประวัติ

ประวัติน้องหมาพันธุ์นี้ก็ใช่ย่อย เป็นถึงหมาพระราชวังเชียวนะ ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดมาจากชาวทิเบต ซึ่งชาวทิเบตในสมัยนั้นเชื่อกันว่าสิงโตเป็นสัตว์ที่เป็นมงคล เป็นสัตว์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่เอาสิงโตมาเลี้ยงซะเลย คงเป็นเพราะว่าสิงโตตัวคงใหญ่เลยผสมพันธุ์หมาขึ้นมาเลย ให้หน้าตาคล้ายๆสิงโต(Lion Dog) โดยมีชื่อว่าพันธุ์ ชิห์สุ  ดังนั้น ชิห์สุจึงแปลว่าสิงโตนั่นเอง พระทิเบตได้มอบหมาพันธุ์ชิห์สุให้แก่จักรพรรดิจีนเป็นของกำนัล หมาพันธุ์นี้ถือได้ว่าเป็นหมาชั้นสูง ตามประวัติศาสตร์จีน พระนางชูสีไทเฮาได้เลี้ยงหมาพันธุ์ปั๊ก,ปักกิ่งและชิห์สุ ทั้ง 3 สายพันธุ์ โดยทั้ง 3 สายพันธุ์นี้เป็นที่โด่งดังมากในสมัยนั้น และพระนางทรงดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่ก็มีคนลักลอบเอาหมาพันธุ์ชิห์สุออกไปนอกราชวัง หลังจากที่พระนางชูสีไทเฮาได้สิ้นพระชนน์ลง หมาพันธุ์ชิห์สุก็ได้กระจัดกระจายออกมา

ลักษณะรูปร่าง

    ขนาดตัวเล็กๆ ขนยาวๆ ดั้งหัก แข็งแรง มีสง่า หัวเชิด หางโค้งงอมาถึงหลัง มีน้ำหนักประมาณ 4.5-7.5 กิโลกรัม ส่วนสูงประมาณ 25-28 เซนติเมตร ชิห์สุมีอายุอยู่ประมาณ 10-18 ปี ตามปัจจัยต่างๆ เช่นอาหาร และการดูแล
ลักษณะนิสัย
    เป็นหมาที่ร่าเริง ขี้เล่น ขี้ประจบ เป็นมิตร ชอบออกกำลังกาย ไม่ชอบถูกทิ้งอยู่ในบ้าน รักสะอาด ชอบมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมของเจ้าของ เจ้าของต้องพาออกไปเดินเล่น ไปวิ่งบ้าง ผมพาไปวิ่งทีไรวิ่งตามเขาไม่ทันซักที วิ่งไวมาก

การดูแล

ต้องอาบน้ำให้บ่อยๆหน่อย เพราะขนเขายาว เขาจะร้อน อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง หรือไม่ก็แต่งตัดขนให้สั้นหน่อย ให้ดูสวยงาม แต่อย่าให้ยาวเกิน เราอาจเห็นขนยาวแล้วเราว่าสวยดีน่ารัก แต่ตัวน้องหมาอ่ะ เขาบอกว่าเขาร้อนมาก ก็ให้ดูเรื่องนี้ด้วย ขนเป็นส่วนประกอบสำคัญที่เป็นตัวชี้วัดความสวยงามของ ชิสุ โดยเฉพาะ ชิสุห์ เป็น สุนัข ขนยาว ที่จะต้องดูแลมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีขนเส้นเล็กและพันกันได้ง่าย หากไม่รู้จักวิธีการรักษาขนให้ดี ขนของ ชิสุ จะพันกันและมีโอกาสเป็นโรคผิวหนังได้ง่ายๆ ทั้งนี้ การแปรงขนอย่างสม่ำเสมอทุกวันจะช่วยให้ผิวหนังและขนสะอาดของ ชิสุ เป็นเงางาม เพราะมีการนวดให้ต่อมน้ำมันที่โคนขนขับน้ำมันออกมาเคลือบเส้นผมได้มากขึ้น ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพสมบูรณ์ และยังเป็นการช่วยขจัดรังแคและสิ่งสกปรกอื่นออกจากผิวหนังของ ชิสุ ด้วย         
          เรื่องอาหารควรเป็นอาหารเม็ด หรือแท่งมากกว่าอาหารกระป๋อง เพราะหมาพันธุ์นี้หนวดเขายาว ถ้ากินอาหารกระป๋อง หรืออาหารอื่นที่ไม่ใช่อาหารเม็ดหรือแท่ง จะทำให้เลอะ และมีกลิ่นเหม็น ถ้าให้กินก็ควรจะล้างและทำความสะอาดให้เขาเลย ถ้าไม่ล้างหรือล้างไม่สะอาดจะเป็นที่สะสมของเชื้อโรค เป็นอันตรายต่อสุขภาพของน้องหมาของคุณได้

เรื่องโรคของน้องหมาพันธุ์ชิห์สุ

โรคตาแห้ง โรคนี้เป็นโรคที่เหมาะกับน้องหมาพันธุ์ ชิสุห์ เพราะมีดวงตาที่กลมโต ลูกตาเปิดกว้าง ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย และอาจจะเกิดอุบัติเหตุกับดวงตาที่กลมโตของน้องหมาได้ด้วย   อาการของโรคตาแห้ง คือมีน้ำตาน้อย เราก็ต้องดูแลด้วยการหยอดตาอย่างต่อเนื่อง อาจจะนานๆ ครั้ง หรือไม่ก็ตลอดชีวิต การดูแลรักษา เจ้าของควรหมั่นทำความสะอาดตาอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโดยเฉพาะ และเมื่อเห็นความผิดปกติของลูกตาให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะ ถ้าทิ้งไว้นาน อาจทำให้ติดเชื้อ แก้วตาละลาย ถึงขั้นตาบอดได้ ดังนั้นเจ้าของควรใส่ใจในเรื่องนี้ให้สำคัญ
โรคหูน้ำหนวก หูอักเสบ ส่วนใหญ่เป็นการอักเสบของช่องหูภายนอกที่เรียกว่า "otitis externa" เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาการของโรคนี้ ได้แก่ มีกลิ่นเหม็น ชอบเกาหู หรือเอาหู (หัว) ไปถูกับวัตถุ ช่องหู หรือใบหูมีสีแดง หรือบวม ในบางตัวอาจมีสิ่งคัดหลั่งออกมาจากช่องหู ฯลฯ สำหรับการป้องกันที่ดีที่สุด ควรตรวจช่องหู ทุกสัปดาห์ ใช้สำลีหรือผ้านิ่มๆเช็ดรูหูส่วนนอก และใบหูเป็นประจำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าพบว่าเจ้าน้องหมาสะบัดหูหรือเกาบ่อยๆ ก็ให้นำไปพบสัตวแพทย์ เพราะอาจจะเป็นโรคนี้ก็ได้

          แต่โรคของน้องหมาพันธุ์นี้ยังมีโรคอื่นๆอีก เช่น โรคนิ่ว โรคไต โรคผิวหนัง หรือไส้เลื่อน วิธีที่ดีที่สุดที่เจ้าของควรที่จะทำคือ ไปพบสัตวแพทย์แล้วทางแพทย์จะกำหนดเวลาฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ตามวงรอบ เราควรไปตามที่สัตวแพทย์นัดทุกครั้ง และอีกอย่างควรที่จะพาน้องหมาไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง เพื่อสุขภาพของน้องหมาของคุณเอง

 


บล็อกสำหรับคนรักหมา

"หมา"สัตว์โลกเพื่อนผู้ซื่อสัตย์

อยู่ดีๆก็อยากสร้างบล็อกเกี่ยวกับหมา เพราะเป็นคนที่ชอบเลี้ยงหมา ตอนนี้ก็มีอยู่ 1 ตัว พันธุ์ชิสุ น้ำหนักของเขาก็ประมาณ 6.6 กิโลกรัม กินเก่งมาก ซนด้วย เป็นสุภาพสตรีครับ เพศเมีย  ชื่อ "มาสด้า" ก็ตั้งตามยี่ห้อรถที่ใช้น่ะครับ อายุตอนนี้ก็ขวบกว่าๆ เกิดเดือนเมษายน ปี 54 

การเลี้ยงหมา เลี้ยงสุนัข ก็ต่างคนก็ต่างเลี้ยงตามความต้องการของตัวเอง เลี้ยงเพื่อไว้เฝ้าบ้านบ้าง เลี้ยงเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัวบ้าง เลี้ยงเพื่อทำงาน เช่น สุนัขที่ใช้ดมหายาเสพติด วัตถุระเบิด แต่หลายๆคนเลย เลี้ยงเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัว คงไม่มีใครเลี้ยงเป็นอาหารนะ ถ้ามีใจร้ายมาก
สุนัขก็มีหลายหลายสายพันธุ์ แล้วแต่จะเเบ่งแยกย่อยกันอย่างไร ที่นิยมเลี้ยงก็แยกเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก สุนัขพันธุ์ใหญ่ ก็แล้วแต่ความชอบว่าใครจะชอบเลี้ยงพันธุ์ไหน

  ชีวิตเราไม่ได้ยืนยาวอะไร ทำอะไรทีี่มันมีความสุขได้ และไม่ได้เบียดเบียนใคร ก็ทำเถอะ ถ้ารักคนแล้วมันเสียใจ เสียสุขภาพจิต ลองมารักหมา เลี้ยงหมาดูบ้าง จะเป็นไรไป....