น้องหมาพันธุ์ชิห์สุ


เรื่องหมาๆสำหรับวันนี้
        หมามีหลายสายพันธุ์แล้วแต่ว่าใครจะชอบพันธุ์ไหน ชอบเลี้ยงพันธุ์ไหน แยกได้เป็น 2 พันธุ์ที่นิยมกันคือ พันธุ์เล็ก และพันธุ์ใหญ่ พันธุ์เล็กที่นิยมเลี้ยงกันก็มี ชิสุ, ปอมเมอเรเนียน, พุดเดิ้ล, ปั๊ก, ชิวาวา, เฟรนซ์ บูลด็อก, แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย, ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย, ปักกิ่ง, บีเกิ้ล    เป็นต้น
        พันธุ์ใหญ่ก็ได้แก่ บาเซ็นจิ, อเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย, ไทยหลังอาน, บางแก้ว, อัฟกาน ฮาวน์, โดเบอร์แมน พินเชอร์, ดัชชุนด์, ไซบีเรีย ฮัสกี้, เชา เชา, เป็นต้น ซึ่งหมาทั้งพันธุ์เล็กและใหญ่ล้วนแล้วแต่มีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันไป การเลี้ยงดู การดูแล ก็ย่อมแตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นเจ้าของต้องใส่ใจให้มาก ในเมื่อนำเขามาเลี้ยงแล้วก็เหมือนกับว่าเรามีห่วงเพิ่ม ถ้าคิดจะเลี้ยงแล้วก็เลี้ยงให้ดี ถ้าคิดว่าเลี้ยงได้ไม่ดี ไม่มีเวลา ก็อย่าเลี้ยงเลยครับ แต่สำหรับวันนี้เรามาเริ่มกันที่หมาพันธุ์เล็กกันก่อน

พันธุ์ชิห์สุ(Shih Tzu) 

ประวัติ

ประวัติน้องหมาพันธุ์นี้ก็ใช่ย่อย เป็นถึงหมาพระราชวังเชียวนะ ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดมาจากชาวทิเบต ซึ่งชาวทิเบตในสมัยนั้นเชื่อกันว่าสิงโตเป็นสัตว์ที่เป็นมงคล เป็นสัตว์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่เอาสิงโตมาเลี้ยงซะเลย คงเป็นเพราะว่าสิงโตตัวคงใหญ่เลยผสมพันธุ์หมาขึ้นมาเลย ให้หน้าตาคล้ายๆสิงโต(Lion Dog) โดยมีชื่อว่าพันธุ์ ชิห์สุ  ดังนั้น ชิห์สุจึงแปลว่าสิงโตนั่นเอง พระทิเบตได้มอบหมาพันธุ์ชิห์สุให้แก่จักรพรรดิจีนเป็นของกำนัล หมาพันธุ์นี้ถือได้ว่าเป็นหมาชั้นสูง ตามประวัติศาสตร์จีน พระนางชูสีไทเฮาได้เลี้ยงหมาพันธุ์ปั๊ก,ปักกิ่งและชิห์สุ ทั้ง 3 สายพันธุ์ โดยทั้ง 3 สายพันธุ์นี้เป็นที่โด่งดังมากในสมัยนั้น และพระนางทรงดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี แต่ก็มีคนลักลอบเอาหมาพันธุ์ชิห์สุออกไปนอกราชวัง หลังจากที่พระนางชูสีไทเฮาได้สิ้นพระชนน์ลง หมาพันธุ์ชิห์สุก็ได้กระจัดกระจายออกมา

ลักษณะรูปร่าง

    ขนาดตัวเล็กๆ ขนยาวๆ ดั้งหัก แข็งแรง มีสง่า หัวเชิด หางโค้งงอมาถึงหลัง มีน้ำหนักประมาณ 4.5-7.5 กิโลกรัม ส่วนสูงประมาณ 25-28 เซนติเมตร ชิห์สุมีอายุอยู่ประมาณ 10-18 ปี ตามปัจจัยต่างๆ เช่นอาหาร และการดูแล
ลักษณะนิสัย
    เป็นหมาที่ร่าเริง ขี้เล่น ขี้ประจบ เป็นมิตร ชอบออกกำลังกาย ไม่ชอบถูกทิ้งอยู่ในบ้าน รักสะอาด ชอบมีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมของเจ้าของ เจ้าของต้องพาออกไปเดินเล่น ไปวิ่งบ้าง ผมพาไปวิ่งทีไรวิ่งตามเขาไม่ทันซักที วิ่งไวมาก

การดูแล

ต้องอาบน้ำให้บ่อยๆหน่อย เพราะขนเขายาว เขาจะร้อน อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง หรือไม่ก็แต่งตัดขนให้สั้นหน่อย ให้ดูสวยงาม แต่อย่าให้ยาวเกิน เราอาจเห็นขนยาวแล้วเราว่าสวยดีน่ารัก แต่ตัวน้องหมาอ่ะ เขาบอกว่าเขาร้อนมาก ก็ให้ดูเรื่องนี้ด้วย ขนเป็นส่วนประกอบสำคัญที่เป็นตัวชี้วัดความสวยงามของ ชิสุ โดยเฉพาะ ชิสุห์ เป็น สุนัข ขนยาว ที่จะต้องดูแลมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีขนเส้นเล็กและพันกันได้ง่าย หากไม่รู้จักวิธีการรักษาขนให้ดี ขนของ ชิสุ จะพันกันและมีโอกาสเป็นโรคผิวหนังได้ง่ายๆ ทั้งนี้ การแปรงขนอย่างสม่ำเสมอทุกวันจะช่วยให้ผิวหนังและขนสะอาดของ ชิสุ เป็นเงางาม เพราะมีการนวดให้ต่อมน้ำมันที่โคนขนขับน้ำมันออกมาเคลือบเส้นผมได้มากขึ้น ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพสมบูรณ์ และยังเป็นการช่วยขจัดรังแคและสิ่งสกปรกอื่นออกจากผิวหนังของ ชิสุ ด้วย         
          เรื่องอาหารควรเป็นอาหารเม็ด หรือแท่งมากกว่าอาหารกระป๋อง เพราะหมาพันธุ์นี้หนวดเขายาว ถ้ากินอาหารกระป๋อง หรืออาหารอื่นที่ไม่ใช่อาหารเม็ดหรือแท่ง จะทำให้เลอะ และมีกลิ่นเหม็น ถ้าให้กินก็ควรจะล้างและทำความสะอาดให้เขาเลย ถ้าไม่ล้างหรือล้างไม่สะอาดจะเป็นที่สะสมของเชื้อโรค เป็นอันตรายต่อสุขภาพของน้องหมาของคุณได้

เรื่องโรคของน้องหมาพันธุ์ชิห์สุ

โรคตาแห้ง โรคนี้เป็นโรคที่เหมาะกับน้องหมาพันธุ์ ชิสุห์ เพราะมีดวงตาที่กลมโต ลูกตาเปิดกว้าง ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย และอาจจะเกิดอุบัติเหตุกับดวงตาที่กลมโตของน้องหมาได้ด้วย   อาการของโรคตาแห้ง คือมีน้ำตาน้อย เราก็ต้องดูแลด้วยการหยอดตาอย่างต่อเนื่อง อาจจะนานๆ ครั้ง หรือไม่ก็ตลอดชีวิต การดูแลรักษา เจ้าของควรหมั่นทำความสะอาดตาอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโดยเฉพาะ และเมื่อเห็นความผิดปกติของลูกตาให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะ ถ้าทิ้งไว้นาน อาจทำให้ติดเชื้อ แก้วตาละลาย ถึงขั้นตาบอดได้ ดังนั้นเจ้าของควรใส่ใจในเรื่องนี้ให้สำคัญ
โรคหูน้ำหนวก หูอักเสบ ส่วนใหญ่เป็นการอักเสบของช่องหูภายนอกที่เรียกว่า "otitis externa" เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งอาการของโรคนี้ ได้แก่ มีกลิ่นเหม็น ชอบเกาหู หรือเอาหู (หัว) ไปถูกับวัตถุ ช่องหู หรือใบหูมีสีแดง หรือบวม ในบางตัวอาจมีสิ่งคัดหลั่งออกมาจากช่องหู ฯลฯ สำหรับการป้องกันที่ดีที่สุด ควรตรวจช่องหู ทุกสัปดาห์ ใช้สำลีหรือผ้านิ่มๆเช็ดรูหูส่วนนอก และใบหูเป็นประจำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าพบว่าเจ้าน้องหมาสะบัดหูหรือเกาบ่อยๆ ก็ให้นำไปพบสัตวแพทย์ เพราะอาจจะเป็นโรคนี้ก็ได้

          แต่โรคของน้องหมาพันธุ์นี้ยังมีโรคอื่นๆอีก เช่น โรคนิ่ว โรคไต โรคผิวหนัง หรือไส้เลื่อน วิธีที่ดีที่สุดที่เจ้าของควรที่จะทำคือ ไปพบสัตวแพทย์แล้วทางแพทย์จะกำหนดเวลาฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ตามวงรอบ เราควรไปตามที่สัตวแพทย์นัดทุกครั้ง และอีกอย่างควรที่จะพาน้องหมาไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง เพื่อสุขภาพของน้องหมาของคุณเอง

 


0 ความคิดเห็น: